การทำงานในที่อับอากาศ Confined Spaces เป็นงานที่มีความเสี่ยงอันตรายจาก
- การขาดอากาศหายใจเนื่องจากพื้นที่การทำงานมักมีอากาศน้อย มีปริมาณออกซิเจน (Oxygen) ต่ำกว่า 19.5% หรือมากกว่า 23.5% อาจจะทำให้คนทำงานหมดสติจากการขาดอากาศหายใจ
- บริเวณที่ทำงานมีก๊าซพิษชนิดต่างๆ เช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่า H2S
- มีอันตรายจากสารเคมีไวไฟ (flammable) หรือ สารระเบิด (Explosives)
- และ อันตราย อื่นๆ เช่น ไฟฟ้าช๊อต ตกจากที่สูง ลื่น เสียงดัง ฯลฯ
อบรมที่อับอากาศ 4 ผู้ คืออะไร
บ่อยครั้งเรามักจะได้ยินข่าวการเสียชีวิตจากการทำงานในที่ที่อับอากาศเนื่องจากนายจ้าง และ ผู้ปฏิบัติงานยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานในที่อับอากาศอย่างปลอดภัย กฎหมายไทยจึงได้มีการประกาศกำหนดให้สถานประกอบกิจการไหนมีสถานที่อับอากาศที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไปนายจ้างจะต้องจัดให้มีมาตรการความปลอดภัยและการฝึกอบรมที่อับอากาศ 4 ผู้ ได้แก่ ผู้อนุญาต ผู้ควบคุม ผู้ช่วยเหลือ ผู้ปฏิบัติงานในงานอับอากาศ วันนี้เราจะมาแนะนำแนวทางการจัดฝึกอบรมการทำงานในที่อับอากาศว่ามีขั้นตอนอย่างไร และ มีกี่รูปแบบ
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในที่อับอากาศจะมีทั้งหมด 4 เรื่องดังนี้
- กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการและดำเนินการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับที่อับอากาศ (15 กุมภาพันธ์ 2562)
- ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และหลักสูตรการฝึกอบรมความปลอดภัยในการทํางานในที่อับอากาศ
(11 มีนาคม 2564) - ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง กำหนดมาตรฐานอุปกรณ์คุ้มครอง ความปลอดภัยส่วนบุคคล อุปกรณ์ช่วยเหลือ และ ช่วยชีวิตสำหรับการทำงานในที่อับอากาศ (21 ตุลาคม 2548)
- ประกาศกรมสวัสดิการ และ คุ้มครองแรงงาน เรื่อง กําหนดมาตรฐานอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล (27 กันยายน 2554)
การฝึกอบรมหลักสูตรการทำงานในสถานที่อับอากาศ 4 ผู้ได้ถูกกำหนดให้มีการจัดอบรมตามหลักเกณฑ์วิธีการ ตามกฎหมายตามข้อ 2 ด้านบนนายจ้างจะต้องให้ให้ลูกจ้างที่มีหน้าที่รับผิดชอบอบรมที่อับอากาศ 4 ผู้
- หลักสูตรผู้อนุญาต
- ผู้ควบคุมงาน
- ผู้ช่วยเหลือ
- ผู้ปฏิบัติงานในที่อับอากาศ รวมกันทั้งหมด 4 ผู้
รวมไปถึงจัดให้มีการอบรมทบทวนการทำงานในสถานที่อับอากาศตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายก่อนลูกจ้างเริ่มทำงาน หรือมีการเปลี่ยนงาน หรือเปลี่ยนสถานที่ทำงานในที่อับอากาศ
อบรมที่อับอากาศมีทั้งหมดกี่แบบ อะไรบ้าง ?
การจัดฝึกอบรมสามารถทำได้ 2 แบบ
- จัดฝึกอบรมที่อับอากาศแบบหน่วยฝึกอบรมนิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 11
- จัดฝึกอบรมที่อับอากาศแบบนายจ้างจัดอบรมเอง (In-House Training)
ข้อดีข้อเสียการจัดอบรมที่อับอากาศในแต่ละแบบ
คุณสมบัติผู้เข้าอบรมที่อับอากาศมีอะไรบ้าง
- มีอายุไม่ต่ากว่า 18 ปีบริบูรณ์
- มีใบรับรองแพทย์ว่าเป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์ ร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นโรคเก่ียวกับทางเดินหายใจ โรคหัวใจ
- ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องผ่านการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้นมาแล้ว
5 ขั้นตอนการจัดอบรมที่อับอากาศ แบบนายจ้างจัดอบรมเอง (In-House Training)
- หาวิทยากรสอนหลักสูตรที่อับอากาศที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด
- แจ้งราชการก่อนจัดอบรมจะต้องแจ้งก่อน 7 วัน นับจากวันอบรมจริง
- จัดเตรียมอุปกรณ์ในการฝึกภาคปฏิบัติ 5 รายการตามที่กฎหมายกำหนด (ส่วนใหญ่วิทยากรที่บริการฝึกอบรมจะเป็นผู้เตรียมมาด้วยให้แบบเบ็ดเสร็จ)
- เตรียมห้องอบรมภาคทฤษฎี 1 ห้อง เข้าอบรมได้ไม่เกิน 30 คน
- เตรียมสารประกอบการฝึกอบรม และ เตรียมข้อสอบต่างๆ
- เตรียมสถานที่สำหรับการฝึกภาคปฏิบัติ สามารถปฏิบัติในสถานที่จริง หรือ มีลักษณะเหมือนสถานที่จริงได้
สรุป :
การอบรมที่อับอากาศแบบนายจ้างจัดอบรมเอง (In-House Training) มีความเหมาะสมกับสถานประกอบการที่พนักงานทำงานในพื้นที่ของตนเองไม่ออกไปทำงานภายนอกบริษัท การจัดอบรมแบบอินเฮ้าส์ข้อดีคือมีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง ช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องให้พนักงานเดินทางออกไปภายนอกบริษัท ไม่ต้องเสียค่าที่พักกรณีอยู่ไกล
แต่.. การจัดอบรมแบบอินเฮ้าส์นี้ไม่เหมาะกับบริษัทผู้รับเหมาที่มีการทำงานแบบเปลี่ยนสถานที่ทำงานบ่อยๆ แนะนำให้อบรมแบบนิติบุคคลดีกว่าเพราะสามารถทำงานได้ทุกที่ ใครสะดวกแบบไหนก็ลองพิจาณาตามความเหมาะสม