spot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

มาตรฐานการตรวจสอบระบบไฟฟ้า Update ล่าสุดปี 2023 มีอะไรบ้าง

มาตรฐานการตรวจสอบระบบไฟฟ้า

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าปัจจุบันเป็นการกำหนดของกฎหมายให้มีการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีการทำงานเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าในสถานประกอบกิจการ การตรวจสอบระบบไฟฟ้าปัจจุบันนี้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบที่จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ในบทความนี้จะสรุปถึงความสำคัญในเรื่องต่างๆที่จะต้องรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบระบบไฟฟ้าเพื่อให้ผู้อ่านสามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายกำหนด

ทำไมถึงต้องตรวจสอบระบบไฟฟ้า

  • ช่วยลดการเกิดระบบไฟฟ้าขัดข้องกระทันหัน (breakdown)
  • สร้างความมั่นใจให้กับพนักงานในองค์กรที่ปฏิบัติงานกับระบบไฟฟ้า
  • ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการ
  • ได้ทราบถึงข้อบกพร่องของอุปกรณ์ในระบบไฟฟ้าก่อนที่จะเกิดการชำรุด หรือ อุบัติเหตุ
  • ลดการเกิดอุบัติเหตุและการเกิดอัคคีภัยในสถานประกอบกิจการ
  • การตรวจสอบระบบไฟฟ้ามีผลกับประกันภัยอุบัติเหตุที่สถานประกอบการได้ทำเอาไว้ หากไม่ทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าตามกฎหมายหากเกิดเหตุไฟไหม้หรืออุบัติเหตุเสียหายบริษัทประกันภัยอาจจะมีสิทธิ์ที่จะไม่ชดเชยให้กับเราได้เช่นกัน
  • ช่วยให้เรารู้ถึงแนวโน้มอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆที่เสื่อมสภาพและสามารถวางแผนบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า (PM) ประจำปีได้

ใครคือผู้ตรวจสอบระบบไฟฟ้า

ใครคือผู้ตรวจสอบระบบไฟฟ้า

ปัจจุบันคนที่จะทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าตามกฎหมายรับรองได้จะแบ่งเป็น 2 แบบ

  1. ผู้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าแบบบุคคล (มาตรา 9)
  2. ผู้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าแบบนิติบุคคล (มาตรา 11)

ทั้ง 2 แบบนั้นจะต้องได้รับอนุมัติขึ้นทะเบียนผู้ตรวจและรับรองความปลอดภัยระบบไฟฟ้า ตามมาตรา 9 และมาตรา 11 กับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเสียก่อนจึงจะสามารถดำเนินการตรวจสอบระบบไฟฟ้าได้ หากวิศวกร หรือ นิติบุคคลใดยังไม่มีเลขทะเบียนจะไม่สามารถตรวจสอบและให้บริการได้ ดังนั้นก่อนที่เราจะทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าหรือใช้บริการนิติบุคคลจากภายนอกควรทำการตรวจสอบเลขทะเบียนดังกล่าวให้แน่ใจเสียก่อน

ข้อควรพิจารณาเลือกผู้ให้บริการ ตรวจสอบระบบไฟฟ้า

เราควรเลือกนิติบุคคลที่ให้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าจากอะไรบ้าง

ข้อควรพิจารณาแนะนำเลือกผู้รับเหมาหรือให้บริการตรวจระบบไฟฟ้า บริษัท หรือ โรงงานส่วนใหญ่จะเลือกใช้บริการแบบนิติบุคคลมาตรา 11 มากกว่าใช้บริการแบบบุคคล เนื่องจาก แบบนิติบุคคลหากเกิดปัญหาหลังบริการ หรือการรับประกันจะมีความพร้อมมากกว่าแบบบุคคล นิติบุคคลมีระบบมาตรฐานการรับรองคุณภาพการบริการ เช่น ISO 9001 สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอนว่ามีมาตรฐานในทุกๆด้าน ซึ่งแบบบุคคลจะไม่มีการรับรองระบบมาตรฐาน ISO 9001 ในภาพรวมองค์กรส่วนใหญ่จึงเลือกใช้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้ากับนิติบุคคลที่ให้บริการมากกว่า แบบบุคคล นั้นเอง

ข้อพิจารณาใช้บริการแบบบุคคล ตรวจสอบระบบไฟฟ้า

  • ผู้รับเหมาแบบบุคคลมีโอกาสทิ้งงานมากกว่าแบบนิติบุคคล หรือไม่
  • การรับประกันหลังการขายที่มีข้อจำกัด เนื่องจากใช้งบส่วนตัว หรือไม่
  • เครื่องมือการทำงานมีใบสอบเทียบ ตาม ISO 17025 หรือไม่
  • ติดต่อยากหลังใช้บริการไปแล้ว หรือไม่
  • บุคคลกรในทีมมีจำกัด หรือไม่
  • มีการกำหนดวิธีการตรวจสอบ และ ขั้นตอนการทำงานตามมาตรฐาน (WI) หรือไม่ เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้เป็นข้อที่ผู้ว่าจ้างจะต้องพิจารณาก่อนใช้บริการเสมอเพื่อป้องกันปัญหาตามมาทีหลัง

ความถี่การตรวจสอบระบบไฟฟ้า

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าจะต้องทำการตรวจสอบทุก 1 ปี และจัดทําบันทึกผลการตรวจสอบ และรับรองระบบไฟฟ้าและบริภัณฑ์ไฟฟ้าตามกฎหมายกรมสวัสดิการฯ มีข้อแนะนำเกี่ยวกับความถี่ของการตรวจสอบนอกเหนือจากการตรวจสอบประจำปีแล้ว หากมีอุบัติเหตุร้ายแรงหรือการชำรุดของอุปกรณ์ที่สำคัญในระบบไฟฟ้าเราควรทำการตรวจสอบด้วยเช่นกันเพื่อให้แน่ใจว่ากลังจากการปรับปรุงแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้วระบบไฟฟ้าของเราสามารถกลับมาพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยทั้งระบบ

ตรวจสอบระบบไฟฟ้าตรวจอะไรบ้าง

ตู้เมน สวิตช์

  • จุดต่อสายและจุดต่อบัสบาร์
  • (Single Line Diagram) ของเมนสวิตช์
  • เครื่องป้องกันกระแสเกิน
  • สายดินของแผงสวิตช์
  • อุณหภูมิของอุปกรณ์
  • สภาพของจุดสายต่อ
  • การต่อลงดิน

การติดตั้งเครื่องปลดวงจรต้นทาง

  • ดรอปฟิวส์คัทเอ้าท์
  • สวิตช์ตัดตอน (Disconnecting Switch)
  • RMU

แรงสูง

  • สายอากาศ
  • สภาพเสา
  • การประกอบอุปกรณ์หัวเสา
  • สายยึดโยง (Guy Wire)
  • การติดตั้งล่อฟ้า
  • สภาพของจุดสายต่อ
  • การต่อลงดิน

แรงต่ำภายในอาคาร

  • วงจรเมน (Main Circuit)
  • สายเข้าเมนสวิตช์
  • รางเดินสายและรางเคเบิล
  • สภาพฉนวนสายไฟ
  • สภาพจุดต่อของสายไฟ
  • การป้องกันความร้อนเหนี่ยวนำ
  • อุณหภูมิของอุปกรณ์

ตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้า

หม้อแปลง

  • เครื่องป้องกันกระแสเกินด้านไฟเข้า
  • การต่อสายแรงต่ำและแรงสูงที่หม้อแปลง
  • การติดตั้งล่อฟ้าแรงสูง
  • การติดตั้งดรอปฟิวส์คัตเอาท์
  • การป้องกันการสัมผัสส่วนที่มีไฟฟ้า
  • สายดินกับตัวถังหม้อแปลงและล่อฟ้า แรงสูง
  • สายดินของหม้อแปลง
  • สภาพหม้อแปลงภายนอก

อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจสอบระบบไฟฟ้ามีอะไรบ้าง

อุปกรณ์ที่ใช้การตรวจสอบระบบไฟฟ้าจะต้องมีมาตรฐานรับรองทุกชิ้น อุปกรณ์หลักๆที่ใช้ในการตรวจสอบระบบไฟฟ้ามีดังนี้

  1. แคล้มป์มิเตอร์ ดิจิตอล
  2. มัลติมิเตอร์ดิจิตอล
  3. เครื่องเทอร์โมสแกน
  4. เครื่องวัดกราวด์ ดิจิตอล
  5. เครื่องวัดโวลต์
  6. เครื่องวัดเต้ารับ
  7. แคล้มป์มิเตอร์วัดความต้านทาน

สรุป :

หากเราจ้างนิติบุคคลจากภายนอกมาตรวจสอบ ควรดูด้วยว่าเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการตรวจสอบระบบไฟฟ้านั้นมีการสอบเทียบ (Calibration) ตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 หรือไม่ โดยส่วนใหญ่นิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าที่มีมาตรฐานจะมีเอกสารรับรองเครื่องมืออุปกรณ์เหล่านี้ หากเราจ้างบริษัทผู้รับเหมาราคาถูกอาจได้การตรวจสอบระบบไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่คุ้มค่ากับอุบัติเหตุต่างๆที่ตามมาอย่างแน่นอน

เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ :
* สงวนลิขสิทธิ์ทุกเนื้อหา และ ภาพประกอบของ Jorportoday สามารถนำไปเผยแพร่ได้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่เชิงพาณิชย์

** กรณีมีการคัดลอกบทความของเราไปส่วนใดส่วนหนึ่ง โปรดติดลิงค์กลับมาที่หน้านี้เพื่อให้เครดิตกับเรา

Similar Articles

Special advertising

spot_img

Special Ads

spot_img

Ads.1

spot_img

Ads.3

spot_img

Ads.4

spot_img
spot_img

Ads.5

spot_img

Most Popular