spot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

โฟมดับเพลิง AFFF ที่มี PFAS มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ สุขภาพนักดับเพลิง

โฟมดับเพลิง AFFF ที่มี PFAS
เหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกี่ยวข้องกับของเหลวติดไฟส่งผลเสียร้ายแรงในอดีต เหตุการณ์อาจเกิดขึ้นในโรงเก็บเครื่องบิน พื้นที่บนเรือขนส่ง อุปกรณ์เติมเชื้อเพลิง ถังเก็บเชื้อเพลิงขนาดใหญ่ ไฟไหม้อาจจะเกิดในระยะสั้นตั้งแต่ติดตั้งขนาดเล็ก ไปจนถึงไฟไหม้ในฟาร์มในถังขนาดใหญ่ซึ่งเผาไหม้ได้เป็นเวลาหลายวัน ตัวอย่างของเหตุการณ์ที่เด่นชัดคือไฟไหม้โรงงานปิโตรเคมี Intercontinental Terminals Company Deer Park ในเท็กซัสในเดือนมีนาคม 2019 ไฟไหม้ดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม และสามารถควบคุมได้ในวันที่ 23 มีนาคม
 

โฟมดับเพลิงประเภท B

เป็นสารหลักที่ใช้ในการขจัดไอระเหย และ ดับไฟจากของเหลวที่ติดไฟ ทั้งในแบบการใช้งานระบบดับเพลิงด้วยตนเอง และ ระบบดับเพลิงแบบติดตั้งอัตโนมัติ
โฟมดับเพลิงจะสร้างฟิล์มเคลือบฟองอากาศบนผิวของเหลวที่ติดไฟเพื่อป้องกันไอระเหยของเชื้อเพลิง และ ออกซิเจนไม่ให้เกิดปฏิกิริยาสร้างองค์ประกอบที่ติดไฟได้ขึ้นมาใหม่ได้
 
เป็นเวลาเกือบ 5 ทศวรรษแล้วที่ AFFF ถูกใช้เป็นโฟมดับเพลิงประเภท B ที่ซึ่งมีบทบาทสำคัญและมีประสิทธิภาพ ก่อนการนำ AFFF มาใช้ สารหลักสำหรับการดับเพลิงของเหลวที่ติดไฟได้คือ โฟมโปรตีน ซึ่งได้มาจากการกระบวนการไฮโดรไลซิสของผลิตภัณฑ์โปรตีนกลายเป็นโฟมอัดอากาศเพื่อนำไปผลิตเป็นแผ่นโฟมที่ซับฟองอากาศบนผิวเชื้อเพลิง
สารประกอบ PFAS ในโฟมดับเพลิง AFFF
AFFF ประกอบด้วยสารลดแรงตึงผิว [PFAS] ที่มีคุณสมบัติที่สำคัญของการขจัดเชื้อเพลิง ค่าความคงตัวทางความร้อน แรงตึงผิวต่ำ และค่าสัมประสิทธิ์การแพร่กระจายเชิงบวก เพื่อให้สามารถก่อตัวเป็นฟิล์มบนพื้นผิวเชื้อเพลิง AFFF ได้รับการยอมรับว่ามีคุณสมบัติในการควบคุมไฟที่มีประสิทธิภาพ
 
AFFF สร้างผลกระทบต่อกับสิ่งแวดล้อมสารลดแรงตึงผิว เช่น PFAS บางชนิดที่มีอยู่ใน AFFF มีการสะสมทางชีวภาพเกิดเป็นพิษ และ กลายเป็น “สารปนเปื้อน” ตามที่ EPA รายงาน
 
AFFF ที่มีสาร PFAS ถูกสั่งห้ามใช้ในหลายรัฐในสหรัฐอเมริกาและในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เช่น ออสเตรเลีย เมื่อไม่นานมานี้หน่วยงานของรัฐบาลกลางและเจ้าหน้าที่รัฐได้ดำเนินการตามมาตรการด้านกฎระเบียบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมสำหรับ
 
มูลนิธิวิจัยการป้องกันอัคคีภัย (The Fire Protection Research Foundation:FPRF) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการวิจัยของ NFPA ที่ซึ่งส่งเสริมในโครงการทดสอบการวิจัย (2018-2020) เพื่อประเมินประสิทธิภาพการป้องกันอัคคีภัยและประสิทธิภาพของโฟมดับเพลิงคลาส B ที่ปราศจากฟลูออรีนหลายชนิดในการเกิดเพลิงไหม้ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอนและแอลกอฮอล์
การศึกษานี้เป็นแนวทางในการแจ้งมาตรฐานการใช้งานระบบโฟม เช่น NFPA 11, มาตรฐานสำหรับโฟมขยายตัวต่ำ ปานกลาง และสูง โดยอ้างอิงจากการทดสอบที่ดำเนินการในขณะที่ทำการวิจัยนี้ และกำหนดข้อแตกต่างและความจำเป็นในการวิจัย เพื่อให้เราเข้าใจถึงความสามารถและข้อจำกัดของโฟมที่ปราศจากฟลูออรีนได้ดียิ่งขึ้น
 
ปัจจุบัน AFFF อยู่ระหว่างทดลองและพัฒนาให้มีความปลอดภัยทั้งต่อตัวนักดับเพลิงและสิ่งแวดล้อม
 
เครดิต : nfpa.org/News

เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ :
* สงวนลิขสิทธิ์ทุกเนื้อหา และ ภาพประกอบของ Jorportoday สามารถนำไปเผยแพร่ได้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่เชิงพาณิชย์

** กรณีมีการคัดลอกบทความของเราไปส่วนใดส่วนหนึ่ง โปรดติดลิงค์กลับมาที่หน้านี้เพื่อให้เครดิตกับเรา

Similar Articles

Special advertising

spot_img

Special Ads

spot_img

Ads.1

spot_img

Ads.3

spot_img

Ads.4

spot_img
spot_img

Ads.5

spot_img

Most Popular