โรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heat stroke)
เป็นโรคที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายของเราไม่สามารถรับมือกับอุณหภูมิสูงได้ โดยส่วนใหญ่เกิดจากการถูกอบอุ่นนานหรืออยู่ในสภาวะอากาศร้อนจนเกินไป
การที่ร่างกายของเราจะมีอุณหภูมิปกติ เราจะสามารถควบคุมอุณหภูมิของร่างกายได้ด้วยการหมุนเวียนของเลือด ซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิร่างกายให้ต่ำลง แต่ถ้าร่างกายของเราถูกสึกหรือแรงจนเกินไป ระบบหมุนเวียนของเลือดจะไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ จนทำให้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้น จนเกินจุดที่เราสามารถควบคุมได้ ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเกิดอาการลมแดด
อาการของโรคลมแดด
จะแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ อาการลมแดดชนิดไม่รุนแรง (heat exhaustion) และ อาการลมแดดชนิดรุนแรง (heat stroke)
- อาการลมแดดชนิดไม่รุนแรง จะมีอาการเหนื่อยล้า หน้ามืด ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรือหัวใจเต้นเร็ว
- อาการลมแดดชนิดรุนแรง จะมีอาการที่รุนแรงกว่า เช่น มีไข้สูง หัวใจเต้นเร็วมาก ซึ่งทำให้เกิดหัวใจวาย ตัวร้อน มีเหงื่อออกมาก
อาการหนักยิ่งกว่าอาจมีอาการชาตามไปด้วย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่นโรคหัวใจ หรือโรคเบาหวาน ที่อาจทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคลมแดด
อาการของผู้ป่วยที่เป็นฮีทสโตรกจะมีอุณหภูมิกาย 40 องศาเซลเซียสหรือมากกว่า ร่วมกับภาวะความรู้สติเปลี่ยนแปลงอาจเกิดอาการสับสน กระวนกระวาย เพ้อ ชักหรือหมดสติได้ หัวใจเต้นเร็ว อัตราการหายใจเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยบางรายจะมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ผิวหนังแดงแพทย์จะวินิจฉัยโรคจากการทราบประวัติว่าผู้ป่วยมีสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะนี้ การตรวจร่างกายพบว่ามีอุณหภูมิกายสูงร่วมกับอาการแสดงในระบบต่างๆ
วิธีป้องกันโรคลมแดด
แพทย์แนะวิธีรับมือเบื้องต้นสามารถทำได้โดยการลดอุณหภูมิร่างกาย
- พาผู้ป่วยเข้ามาพักในที่ร่ม หรือในที่ที่มีเครื่องปรับอากาศและมีอุณหภูมิที่เย็นลง
- ถอดเสื้อผ้าและคลายเครื่องแต่งกายที่รัดแน่นจนเกินไปออกเพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัว
- อาจเช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำเย็น หรือใช้ถุงน้ำแข็งวางบริเวณศีรษะ ลำคอ รักแร้และขาหนีบ หรืออาจใช้สเปรย์น้ำเย็นพ่น
- ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด เนื่องจากเครื่องดื่มประเภทนี้จะทำให้ความสามารถในการปรับอุณหภูมิของร่างกายสูญเสียไป รวมถึงการดื่มน้ำเย็นๆ ในทันทีจะทำให้เกิดการหดเกร็งของกระเพาะอาหารได้
เราควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่โดยเฉพาะเช่นเสื้อผ้าที่มีสีสันอ่อนๆ และ ที่โล่งมีอากาศถ่ายเท นอกจากนี้ควรอยู่ในที่ร่มเงา หรือใช้ร่มสามารถป้องกันแสงแดดได้ สวมหมวกป้องกันแสงแดด ควรดื่มน้ำเย็นๆอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาความชื้นในร่างกาย ส่วนใหญ่แล้วโรคลมแดดเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาสุขภาพอย่างเหมาะสม และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคลมแดดที่ถูกต้อง
หากมีอาการของโรคลมแดด
จะต้องรีบพักผ่อนในที่ร่มเงาและดื่มน้ำเย็นๆเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย อย่างไรก็ตาม หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการที่รุนแรง เช่น หน้ามืด เจ็บหน้าอก หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
การรักษาโรคลมแดด
แพทย์อาจจะให้ยาลดไข้ หรือสาร IV และควบคุมอุณหภูมิร่างกายด้วยวิธีการเย็น และอาจจะต้องให้เครื่องช่วยหายใจในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะหัวใจวาย การรักษาโรคลมแดดเป็นการรักษาความรุนแรงของโรค ดังนั้นหากมีอาการหนักหรือไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม