วันที่ 9 มิ.ย. 2564
ความคืบหน้ากรณีเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. (8 มิถุนายน 2564) เกิดเหตุสารเคมีระเบิดและไฟไหม้ลุกลามอย่างรุนแรงในห้างสรรพสินค้าตรงข้ามวัดพระธาตุศรีจอมทอง ที่ตั้งอยู่ใจกลางอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยจุดเกิดเหตุเป็นร้านที่จำหน่ายสังฆภัณฑ์และอุปกรณ์เกษตร รวมถึงปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร
จากข้อมูลเบื้องต้น สันนิษฐานว่าสาเหตุเกิดจากสารเคมีที่เกิดการทำปฏิกิริยาบางอย่างที่สร้างความร้อนและเกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเกิดการปะทุอย่างต่อเนื่องและเกิดกลุ่มควันไฟสีดำขนาดใหญ่ที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งทำให้ผู้คนทั่วทั้งตัวอำเภอจอมทองตื่นตกใจและหวาดหวั่นอย่างมาก เพราะความกังวลว่าอาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี เหตุการณ์นี้ทำให้เรานึกถึงอุบัติการณ์ครั้งหนึ่งในอดีตเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2542 ที่เกิดระเบิดสารเคมีในโรงงานอบแห้งลำไยในอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บและสูญเสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงบ้านเรือนและทรัพย์สินในบริเวณใกล้เคียงที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
เหตุไฟไหม้นั้นลุกลามอย่างรวดเร็ว จนลามไปยังร้านข้างเคียง
ในช่วงเย็นวันนี้ (8 มิถุนายน 2564) นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุ รวมถึงการตรวจเยี่ยมงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ระดมกำลังมาช่วยกันควบคุมเหตุการณ์นี้ ข้อมูลเบื้องต้นรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 15.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรจอมทอง ได้รับแจ้งเรื่องเหตุการณ์ที่คล้ายกับการระเบิดเกิดขึ้น 5 ครั้ง และไฟไหม้ลุกลามที่ร้านเหรียญทอง ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ที่ตั้งตรงข้ามวัดพระธาตุศรีจอมทอง จึงทำการส่งกำลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุและประสานเจ้าหน้าที่ในการดับเพลิงและระดมกำลังมาช่วยกันควบคุมสถานการณ์ พบว่าต้นเพลิงเริ่มจากโกดังด้านหลังของร้านเหรียญทอง ซึ่งเก็บสารเคมีและอุปกรณ์การเกษตร และเพลิงได้ลุกลามมาทางหน้าร้านที่เปิดเป็นร้านขายสังฆภัณฑ์ รวมถึงได้ลุกลามไปยังร้านเกรียงไกรสังฆภัณฑ์ และร้านแสงเจริญ ซึ่งขายพลุ ดอกไม้เพลิง ธูปเทียนสังฆภัณฑ์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน
เหตุการณ์ขณะเกิดไฟไหม้
จากการสอบสวนเบื้องต้นของเหตุการณ์นี้ นายปรเมศร์ อายุ 38 ปี เจ้าของร้าน เล่าให้ฟังว่าในวันนี้ เวลาประมาณ 15.20 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ขึ้นที่โกดังเก็บสารเคมีและอุปกรณ์การเกษตร โดยโกดังนี้ประกอบด้วยสารโปตัสเซียม 10 กระสอบ, ปุ๋ยยูเรีย 20 กระสอบ และยาฆ่าแมลงและฮอร์โมนพืชอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่หลังร้านเหรียญทองการเกษตร ในขณะนั้นเจ้าของร้านได้สั่งคนงาน 2 คนในร้านใช้ถังดับเพลิงเพื่อดับเพลิง ซึ่งพยายามดับเพลิงเป็นเวลาประมาณ 1 นาที แต่ไม่สามารถดับไฟได้เนื่องจากเพลิงไหม้ได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงทำให้พวกเขาต้องหนีออกจากพื้นที่
นอกเหนือจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าเบื้องต้นได้สั่งการให้ทางหน่วยงานเร่งตรวจสอบสารเคมีที่มีอยู่ในจุดเกิดเหตุเพื่อทราบถึงความเสี่ยงและสามารถวางแผนการบริหารจัดการและควบคุมได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ในเวลาเดียวกัน ก็มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบความมั่นคงของโครงสร้างอาคารที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดจากเหตุการณ์นี้ เนื่องจากเปลวไฟเริ่มรุนแรงเป็นอย่างมาก อาจเกิดความเสี่ยงและความไม่ปลอดภัยในการเข้าถึงพื้นที่ การกั้นพื้นที่ไว้เป็นเรื่องสำคัญ และห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่เพื่อเข้าไปจัดการกับสารเคมีและตรวจสอบโครงสร้างอาคาร จนกระทั่งมั่นใจว่ามีความปลอดภัย หากว่าถ้าผู้ประสบเหตุมีสติและสามารถระงับเหตุอย่างถูกวิธีตั้งแต่แรก อาจจะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมากและป้องกันความเสียหายที่มากขึ้น
รายงานแจ้งว่าในช่วงเหตุการณ์นั้น มีเสียงระเบิดที่ดังมาก สามารถได้ยินไปไกลถึงรัศมีนับสิบกิโลเมตรได้อย่างชัดเจน แม้ในจุดที่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร ขณะเดียวกันยังส่งผลให้กระแสไฟฟ้าขัดข้องและดับไปในพื้นที่อำเภอจอมทอง รวมถึงอำเภอใกล้เคียงอาทิอำเภอดอยหล่อ, อำเภอฮอด, อำเภอแม่แจ่ม, และอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงอำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กันมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ต้องทำการปิดกั้นการจราจรบนถนนสายหลักของอำเภอจอมทองที่ผ่านจุดเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัยของผู้คนและต้องหลีกเลี่ยงเพื่อใช้เส้นทางอื่นที่เป็นสายรองแทน เนื่องจากมูลค่าของความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ยังอยู่ระหว่างการสำรวจและประเมิน แต่คาดว่าอาจมีมูลค่ากว่าหลายล้านบาท
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.sanook.com/news/8394286/
