23 เมษายน 2567
เหตุการณ์ไฟไหม้ที่โกดังเก็บกากอุตสาหกรรมและสารเคมี ของบริษัท วินโพรเสส จำกัด ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ทำให้เกิดความเสียหายทั้งทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับความรับผิดชอบ และมาตรการที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในอนาคต
เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของมลพิษที่เกิดขึ้น การประเมินความเสี่ยง พบว่า มีโอกาสที่ชาวบ้านในตำบลบางบุตร และตำบลหนองบัว จะได้รับผลกระทบจากสารพิษที่กระจายอยู่ในอากาศ และสารพิษที่มาจากการฉีดน้ำเพื่อดับไฟไหลลงดิน
สารพิษเหล่านี้มีการสะสม และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
นายสนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย ได้ชี้แจงถึงความรุนแรงของสารพิษที่มีอยู่ในโกดังเก็บสารเคมี เช่น เศษซากของโรงงานอุตสาหกรรม น้ำมันเครื่องที่ใช้แล้ว สารเคมีที่เป็นกรด และกลุ่มสารทำละลาย กว่า 2 พันลิตร ทั้งนี้ ยังมีบ่อน้ำมันที่ใช้แล้ว ถังตะกอนน้ำเสีย และขยะอิเล็กทรอนิกส์
หลังจากเกิดเพลิงไหม้แล้ว สิ่งที่ตามมาคือการปล่อยสารจากไอระเหย เช่น สารเบนซีน ไซลีน PM 2.5 PM 10 และคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นสารพิษที่มีความอันตราย และมีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยปนเปื้อนสู่ธรรมชาติลงไปในดิน แหล่งน้ำ และอากาศ
เกิดมลพิษที่มีผลกระทบต่อดิน น้ำ และอากาศ โดยมีรัศมีที่ต้องระวังถึง 5 กิโลเมตร
นายสนธิ ประเมินว่า มีพื้นที่ถึง 800 ไร่ ที่อาจได้รับความเสียหายจากมลพิษที่กระจายลงในอากาศ หรือไหลลงดิน ซึ่งควรมีการจัดการเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ทางหน่วยงานจึงต้องดำเนินการตรวจวัดสารเคมีในดิน อากาศ และน้ำในคูคลอง ให้ครอบคลุมทั้งรัศมีที่กำหนดไว้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพและสภาพแวดล้อม รวมถึงการระดมความช่วยเหลือสู่ชุมชนที่อาจได้รับผลกระทบ
การตั้งข้อสังเกตุสาเหตุของเพลิงไหม้
นายสนธิ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า โรงงานที่เกิดเหตุแห่งนี้ มีประวัติการมีพิพาทกับชาวบ้านมานานแล้ว และมีคำสั่งให้กำจัดกากอุตสาหกรรม มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุแบบนี้บ่อย ดังนั้น สิ่งที่ต้องปรับปรุง คือ การให้โรงงานมาประกันภัย เพื่อให้มีการเยียวยาในกรณีที่เกิดเหตุใดๆขึ้น
นอกจากนี้ นายสนธิยังเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุจริงหรือไม่ ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า มีการอ้างสาเหตุมาจากอากาศร้อน ซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ แต่การเกิดไฟไหม้จากอากาศร้อน โดยไม่มีประกายไฟ อากาศต้องร้อนจัดถึง 54 องศาเซลเซียส จึงจะสามารถลุกไหม้เองได้ แต่ในประเทศไทยอุณหภูมิความร้อนไม่สูงขนาดนั้น แต่ไฟกลับไม่ลุกไหม้สารเคมีที่เก็บอยู่นอกอาคาร จึงขอให้หน่วยงานตรวจสอบเรื่องนี้ และพิสูจน์หลักฐานต่อไป
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2780380