Completely Check, Completely Fine Out หรือ CCCF ซึ่งแปลว่า “ตรวจสอบอย่างสมบูรณ์ ปรับแต่งอย่างละเอียด” เป็นหลักการที่มีรากฐานมาจากความเชื่อที่ว่าการตรวจสอบที่ครอบคลุมจะให้ผลลัพธ์ที่ไร้ที่ติ ไม่ว่าคุณจะตรวจสอบเครื่องจักร ประเมินซอฟต์แวร์ หรือแม้แต่การออกแบบขั้นตอนการปฏิบัติงาน
สิ่งสำคัญอยู่ที่การไม่ละเลย เมื่อคุณตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว คุณต้องแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีและสมบูรณ์ก่อน ก่อนที่จะนำไปใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม
วิธีการทำ CCCF คือ
- กำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน: ทำความเข้าใจว่าทำไมคุณถึงต้องดำเนินการตรวจสอบ ? เพื่อความปลอดภัย เพื่อฟังก์ชันการทำงาน หรือเพื่อประสิทธิภาพหรือไม่? แล้วกำหนดสิ่งที่คุณต้องการ แบบไหนที่เรียกว่าสมบูรณ์สำหรับการดำเนินการนี้ เช่น หากเป็นการกำจัดสารเคมีออกจากแหล่งน้ำ สิ่งที่เรียกสมบูรณ์คือน้ำเหล่านั้นต้องสะอาดจนดื่มได้
- เตรียมตัวให้พร้อม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีเครื่องมือ อุปกรณ์ หรือซอฟต์แวร์ที่จำเป็นสำหรับการตรวจสอบที่ครอบคลุม
- เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบแบบกว้างๆ: เริ่มต้นด้วยภาพรวมทั่วไปเพื่อระบุปัญหาหรือความผิดปกติที่เห็นได้ชัด นี่เป็นรากฐานสำหรับการประเมินโดยละเอียด
- ซูมเข้าไปในรายละเอียด: เมื่อตรวจสอบอย่างกว้างๆ เสร็จแล้ว ให้เจาะลึกรายละเอียดที่ซับซ้อน หากเป็นเครื่องจักรให้ตรวจสอบส่วนประกอบแต่ละชิ้น สำหรับซอฟต์แวร์ ให้ประเมินทุกฟังก์ชัน คุณลักษณะ และทุกบรรทัดของโค้ด
- บันทึกทุกอย่าง: ทุกความผิดปกติ ทุกส่วนที่ดูมีอะไรน่าสงสัย และทุกความผิดพลาด ควรได้รับการบันทึกไว้ สิ่งนี้มีความสำคัญต่อความโปร่งใส การอ้างอิงในอนาคต และความสมบูรณ์ของกระบวนการ
- หา Second Opinions: หลังจากการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ให้เพื่อนร่วมงานหรือชุดเครื่องมือชุดที่สองมาประเมินใหม่ เช่น อาจจะเป็นซอฟแวร์อีกประเภทที่ทำงานคล้ายกัน สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ถึงการประเมินที่เป็นกลางและครบถ้วนทุกแง่มุม
- ประเมินผลลัพธ์: เปรียบเทียบสิ่งที่คุณตรวจสอบกับมาตรฐานและวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
- ดำเนินการแก้ไข: สำหรับปัญหาที่พบเจอ ให้ดำเนินการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงที่
- ตรวจสอบอีกครั้ง: หลังจากแก้ไขความผิดปกติแล้ว ให้กลับมาตรวจสอบส่วนที่มีปัญหาอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้
- สรุปด้วยการรับรอง: เมื่อพอใจแล้ว ให้รับรองผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือระบบว่า “สมบูรณ์ดี”
องค์ประกอบสำคัญของระเบียบวิธี CCCF:
- การกำหนดมาตรฐาน: หัวใจของ CCCF คือการสร้างมาตรฐานที่ชัดเจนและมีความเป็นกลาง ในการดำเนินการตรวจสอบ มาตรฐานเหล่านี้สามารถกำหนดให้กับอุตสาหกรรมหรือกำหนดให้กับองค์กรก็ได้
- ความครอบคลุม: CCCF มีความจุดประสงค์เพื่อเจาะลึกในทุกแง่มุมที่เป็นไปได้เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการหรือผลิตภัณฑ์เหล่านั้นสมบูรณ์แบบ
- เอกสารประกอบ: ทุกขั้นตอน ทุกการตรวจสอบ และทุกความผิดปกติจะต้องได้รับการบันทึกไว้ สิ่งนี้ทำให้เกิดความชัดเจนและความโปร่งใส
- การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง: แม้ว่าจะผ่านกระบวนการ CCCF แล้ว แต่ก็จำเป็นต้องมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการพัฒนาความรู้ของบุคลากรอย่างต่อเนื่องด้วย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าความสมบูรณ์นั้นจะยังคงอัปเดตอยู่เสมอ
- การทำงานร่วมกัน: แม้ว่าบุคคลหรือเครื่องมือเพียงอย่างเดียวก็สามารถดำเนินการกระบวนการ CCCF ได้ แต่ประสิทธิภาพของกระบวนการก็จะเพิ่มขึ้นเมื่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือเครื่องมือหลายชิ้นทำงานร่วมกัน เพื่อให้มั่นใจว่ามีการประเมินครบในทุกมิตินั่นเอง
