25 เมษายน 2567
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้รับหน้าที่ในการจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงงานย่านพระราม 2 จากการเกิดเหตุสารเคมีรั่วไหล จนทำให้เกิดกลุ่มควันสีขาวไปทั่วบริเวณ และเป็นภัยอันตรายแก่สิ่งแวดล้อมและประชาชน
การจัดการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขนย้ายสารเคมีที่รั่วไหลออกจากอาคาร เพื่อลดความเสี่ยงในการระเบิด หรือการสะสมความร้อนภายในอาคาร การใช้น้ำควบคุมควันที่เกิดขึ้น เพื่อให้ควันเจือจางลง นอกจากนี้ การระวังในการเปิดบรรจุภัณฑ์ เมื่อสารเคมีเกิดไฟลุกไหม้เป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากสารเคมีอาจมีความร้อนสะสม เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการลุกไหม้ได้ เพื่อความปลอดภัยในการจัดการกับสารเคมี การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของสารเคมี และวิธีการจัดการเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงได้
การรายงานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
น.ส.พิมพ์ภัทรา ได้รายงานว่า สารเคมีที่พบในที่เกิดเหตุ คือ สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ ซึ่งไม่เข้าข่ายกฎหมายวัตถุอันตรายตาม พรบ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 แต่เป็นสารเคมีที่มีความเสี่ยงต่อการลุกไหม้ได้เอง โดยจะทำปฏิกิริยากับความร้อนจากการตอบสนองกับออกซิเจน และสามารถลุกติดไฟได้ จึงมีความเป็นไปได้ว่า การสะสมความร้อนภายในบรรจุภัณฑ์ของสารไทโอยูเรียไดออกไซด์ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
นายปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม อธิบดีกรมโรงงาน และอุตสาหกรรมทุกจังหวัด ได้มีการกำหนดแนวทางในการแจ้งเตือน และตรวจสอบสถานประกอบการที่มีการจัดเก็บสารเคมีให้เพิ่มความระมัดระวังในการจัดเก็บ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงการตรวจสอบสถานที่จัดเก็บให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโรงงาน และสถานที่ครอบครองที่จัดเก็บวัตถุอันตรายหรือสารเคมี โดยการตรวจสอบจะรวมถึงการเช็กสารเคมีที่จัดเก็บ เช็ก MSDS เอกสารข้อมูลความปลอดภัย เพื่อให้แน่ใจว่าสถานที่จัดเก็บอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.matichon.co.th/economy/news_4544442