การระบาดของไข้เลือดออก แพร่กระจายผ่านยุงลาย อันตรายถึงชีวิต

ไข้เลือดออก เป็นโรคร้ายแรงที่ต้องระมัดระวัง อันตรายต่อชีวิต โรคนี้เกิดจากการถูกกัดโดยยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะของเชื้อไวรัส ไม่เพียงแค่เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาที่มีการระบาดทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมชื้นและอุณหภูมิสูง เช่น ประเทศในเขตร้อนชื้น

การมีไข้เป็นเรื่องที่ทำให้ผู้ปกครองกังวลอย่างมาก โรคนี้มักพบบ่อยในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยเฉพาะในช่วงอายุ 2-8 ขวบ แต่ก็ควรระวังว่าผู้ใหญ่ก็มีโอกาสเป็นโรคไข้เลือดออกได้เช่นกัน โดยเฉพาะหากต้องอาศัยอยู่ในแหล่งที่มีการสะสมของยุงลาย

อาการของโรคไข้เลือดออก

ในเด็กอาจมีเพียงอาการไข้และผื่น ในขณะที่ผู้ใหญ่ที่เป็นไข้เลือดออก อาจมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดตามตัว ปวดกระบอกตา และปวดกล้ามเนื้อ หากไม่ระวังหรือไม่รับรู้ถึงการเป็นเชื้อไวรัสไข้เลือดออก อาจทำให้การรักษาช้าลง และสามารถทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ สำคัญที่จะรู้คืออาการสำคัญของโรคไข้เลือดออก ซึ่งมีดังนี้

1. ไข้สูง มักมีอาการไข้สูงระหว่าง 39-40 องศาเซลเซียส ซึ่งมักมีหน้าแดงและอาการเมื่อยตามตัว และปวดศีรษะ อาการไข้สูงมักมีระยะเวลาประมาณ 4-5 วัน

2. อาการเลือดออก เช่น เลือดกำเดาไหล ลักษณะการเลือดออกอาจเกิดที่ไรฟัน หรือมีอาการอาเจียนเป็นเลือด

3. ตับโต

4. ความผิดปกติของระบบไหลเวียนเลือดหรือช็อก ซึ่งอาจมีอาการกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น รอบปากเขียว และความดันโลหิตต่ำ

นอกจากนี้ มีข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่า ยุงมักกัดบุคคลบางคนมากกว่าคนอื่นๆ โดยเฉพาะในบุคคลที่มีลักษณะเฉพาะต่างๆ เช่น มีเหงื่อออกมาก ตัวร้อน หายใจแรง หรือสวมเสื้อผ้าสีเข้ม ดังนั้น ควรระมัดระวังในการป้องกันการกัดของยุงลายและควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันทีหากพบอาการข้างต้น

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก สามารถติดต่อสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (โรงพยาบาลเด็ก) ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน 1415 ซึ่งพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://health.kapook.com/view2522.html#google_vignette