ภาวะเอ็นข้อมืออักเสบเป็นภาวะที่พบมากในผู้ที่มีอายุระหว่าง 30-60 ปีโดยเฉพาะในเพศหญิงที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมากกว่าผู้ชายถึง 8 เท่า อาการสำคัญของภาวะนี้คือการปวดและบวมบริเวณข้อมือด้านนิ้วโป้ง โดยอาการจะมีความสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของข้อมือ
เอ็นข้อมือเป็นเส้นเอ็นที่อยู่บริเวณข้อมือฝั่งทางด้านนิ้วโป้ง
เป็นเส้นเอ็นที่ใช้ในการขยับเคลื่อนไหวของนิ้วโป้งและข้อมือ ซึ่งเป็นจุดที่มีการอักเสบได้บ่อยที่สุด ส่วนที่เกิดอาการเจ็บส่วนใหญ่เกิดการอักเสบรอบๆ ปลอกหุ้มเอ็น การอักเสบทำให้การเคลื่อนไหวของเส้นเอ็นที่อยู่ภายในปลอกหุ้มเอ็นมีการติดขัด บวม และเจ็บปวด โดยเฉพาะเมื่อมีการเคลื่อนไหวของนิ้วโป้งหรือข้อมือ การรักษาภาวะเอ็นข้อมืออักเสบมักจะใช้วิธีการที่คล้ายกันกับการรักษาข้อต่ออื่นๆ โดยมักจะแนะนำให้ผู้ป่วยพักผ่อน รวมถึงการใช้ยาต้านการอักเสบและกล้ามเนื้อผ่านทางการฉีดเข้าเส้นเอ็น
อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยไม่ทำการป้องกัน หรือมีพฤติกรรมการใช้ข้อมือที่ไม่เหมาะสม อาการเจ็บข้อมืออาจกลับมาซ้ำได้ การใช้งานข้อมือซ้ำๆ หรือการใช้งานที่เกินขอบเขตของข้อมืออาจเป็นสาเหตุให้เกิดการอักเสบอีกครั้ง เพื่อป้องกันภาวะเอ็นข้อมืออักเสบ ควรระมัดระวังในการใช้งานข้อมือให้เหมาะสม และหากมีอาการปวดข้อมือควรรีบพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง
อาการเอ็นข้อมือที่อักเสบ
– อาการเจ็บข้อมือ ขณะมีการเคลื่อนไหวในแนวเส้นเอ็น กรณีมีการอักเสบมากอาจมีภาวะข้อมือบวม แดง
– ปวดบริเวณข้อมือด้านนิ้วโป้งที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหว ปวด บวมมากกว่ามืออีกข้าง และจำกัดการเคลื่อนไหว เช่น เมื่อขยับข้อมือ นอนสะดุ้งตื่นเพราะข้อมือบิดหมุนช่วงหลับโดยไม่รู้ตัว และอาจมีอาการบวมแดงร่วมด้วย
– การบาดเจ็บที่รบกวนการทำงาน ไม่สามารถใช้ชีวิตหรือทำงานได้ตามปกติ ควรพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงต่อการปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ
– อุบัติเหตุ เช่น ล้ม ในท่าที่มีแรงกระแทก ที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บเส้นเอ็น จนส่งผลให้เกิดการอักเสบ
– ใช้งานข้อมืออย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ใช้งานข้อมือซ้ำๆ ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน จนเกิดการกระตุ้นให้มีภาวะอักเสบ
– การขยับข้อมือผิดลักษณะ หรือใช้อุปกรณ์ที่ต้องใช้ข้อมือแบบผิดวิธี
– คุณแม่ตั้งครรภ์ อาจเริ่มปวดตั้งแต่ไตรมาสสุดท้าย เนื่องจากเป็นช่วงที่น้ำหนักตัวเพิ่ม ร่างกายมีการสะสมของน้ำและเกลือแร่ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้ปลอกหุ้มเอ็นบวม และจำกัดการเคลื่อนไหวของเส้นเอ็นที่อยู่ภายในปลอกหุ้มเอ็น ส่งผลให้มีอาการปวดตามมา โดยอาการอาจจะคงอยู่จนถึงหลังคลอด
– คุณแม่ที่เลี้ยงลูก โดยใช้ข้อมือมากๆ เช่น เปิดปิดขวดนม บิดผ้าอ้อม และอุ้มลูก เป็นต้น
– กลุ่มนักกีฬา ที่ใช้งานข้อมือมากเกินไป รวมถึงการจับอุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม
– เพศหญิง เป็นกลุ่มเสี่ยงปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบมากกว่าผู้ชายถึง 8 เท่า
– ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบเรื้อรัง เช่น โรครูมาตอยด์
การรักษาและการป้องกันอาการปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ โดยการใช้ชุดป้องกันที่เหมาะสม เช่น สวมเข็มขัดหุ้มข้อมือขณะเล่นกีฬา หรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานข้อมือในชีวิตประจำวันให้เหมาะสม พร้อมทั้งรับการรักษาอย่างเหมาะสม เมื่อมีอาการของอักเสบของเอ็นข้อมืออาการปวดข้อมือ โดยการปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2757897